พูดคุยกับ Christian Savill มือกีตาร์แห่งวงชูเกซ, ดรีมป็อประดับไอคอนจากอังกฤษ Slowdive ผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษทางอีเมล ก่อนที่เขาและวงจะเดินทางมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งด้วยคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกที่ขายบัตรหมดเกลี้ยงไปแล้ว กับงาน #HYHBKK Live with Slowdive ในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคมนี้ ที่ Voice Space หลังเคยมาสร้างความประทับใจครั้งแรกด้วยโชว์ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ ที่เทศกาลดนตรีนานาชาติ Maho Rasop Festival เมื่อปี 2018

ในปี 2023 ที่ผ่านมา Slowdive คัมแบ็คสมการรอคอยด้วยสตูดิโออัลบั้มใหม่ชุดแรกในรอบ 6 ปี กับอัลบั้มชุด ‘Everything Is Alive’ ที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่คำวิจารณ์ และสามารถทะยานขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต UK Independent Albums ได้สำเร็จ โดยมีซิงเกิ้ลอย่าง “Kisses” และ “Skin in the Game” ซึ่งในบทสัมภาษณ์นี้ เราจะพาทุกคนไปเจาะเรื่องราวเบื้องหลังผลงานชุดดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่พวกเขาห่างหายไปจากการปล่อยผลงาน ความรู้สึกที่ทางวงมีต่อการเป็นไวรัลบนโซเซียลมีเดียของดนตรีซูเกซ, ดรีมป็อปในหมู่ผู้ฟังรุ่นใหม่ ไปจนถึงสิ่งที่แฟนๆ สามารถคาดหวังได้จากโชว์ที่กำลังจะมาถึง และอีกมากมาย

(Photo Credit: Ingrid Pop)

RockOn: ก่อนอื่นเลย เรารอแทบไม่ไหวแล้วที่จะได้ชมการแสดงของพวกคุณในไทยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 อย่างทราบว่าการออกทัวร์จนถึงตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง?

Christian: ขอบคุณครับ เรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้กลับไปเยือนประเทศไทยอีกครั้ง เราได้เดินทางไปยังหลายประเทศตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้เราก็อายุมากขึ้นกันแล้ว ดังนั้นก็ต้องมีรู้สึกเหนื่อยล้ากันบ้าง แต่คอนเสิร์ตที่ผ่านมามันสุดยอดจริงๆ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดน่าจะเกิดขึ้นเพราะคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่มาร่วมชม ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเลย เพราะความตื่นเต้นของพวกเขานี่แหละที่นำมาซึ่งพลังงานใหม่ๆ

(Slowdive - Everything Is Alive, 2023)

RockOn: ปี 2023 ถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับพวกคุณเลย เพราะพวกคุณได้ปล่อยอัลบั้มคัมแบ็ค ‘Everything Is Alive’ ที่ประสบความสำเร็จทั้งบนชาร์ตและบนตารางอันดับอัลบั้มแห่งปีของสื่อต่างๆ คุณรู้สึกอย่างไรบ้างกับกระแสตอบรับที่กล่าวมา?

Christian: ตอนที่เราทำอัลบั้มชุดนี้ เราแค่คิดว่าเราจะชอบมันหรือเปล่าแค่นั้นเลย ดังนั้นผมคิดว่าเราจะรู้ได้ว่าผู้ฟังจะชอบมันด้วยหรือเปล่า ก็ต่อเมื่อเราได้ปล่อยอัลบั้มออกมาแล้วเท่านั้นครับ เราไม่สามารถควบคุมได้ว่าผู้ฟังจะเห็นด้วยกับเราไหม แต่มันจะดีเสมอถ้าพวกเขาเห็นด้วยกับเรา

RockOn: แล้วอะไรที่ทำให้พวกคุณตัดสินใจเลือกคัมแบ็คในรอบ 6 ปี ด้วยซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้มอย่าง “Kisses”?

Christian: ตอนที่ Neil [Halstead] ส่งไอเดียเกี่ยวกับเพลงมาให้เรา “Kisses” มีความโดดเด่นมากๆ และกลายเป็นเพลงที่เราคิดว่ายอดเยี่ยมในทันที เราเลือกเพลงปล่อยเพลงนี้ออกมาในช่วงฤดูร้อน เพราะมันให้ความรู้สึกที่เป็นซัมเมอร์มากๆ ครับ

RockOn: อยากรู้ว่าธีมหรือแนวคิดเบื้องหลังอัลบั้ม ‘Everything Is Alive’ คืออะไร?

Christian: อัลบั้มนี้ไม่ได้มีธีมอะไรที่เป็นศูนย์กลางครับ แต่มันมีโมเมนนต์ของการใคร่ครวญ กาลเวลาที่ผ่านไป ความเกิด การตาย และความหวังในอนาคต

RockOn: อัลบั้ม ‘Slowdive’ และ ‘Everything Is Alive’ มีระยะเวลาการปล่อยที่ห่างกันถึง 6 ปี อย่างรู้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?

Christian: เราออกทัวร์กันเยอะมากๆ สำหรับอัลบั้มชุดก่อน ดังนั้นเมื่อทัวร์สิ้นสุดลง เราก็ตัดสินใจหยุดพักและใช้เวลาในปี 2019 กับครอบครัวของเรา แต่จากนั้นก็มีโควิดระบาด ทำให้กระบวนการบันทึกอัลบั้มใหม่ล่าช้ากว่าที่เราแพลนไว้ครับ

RockOn: เป้าหมายของคุณสำหรับอัลบั้มนี้คืออะไร คุณอยากให้ผู้ฟังได้อะไรจาก ‘Everything Is Alive’ บ้าง?

Christian: เราแค่ต้องทำอัลบั้มที่เราชอบครับ ซึ่งในแง่นั้นเราก็รู้สึกแฮปปี้กับมันแล้ว ผมคิดว่าผู้ฟังจะมีสิ่งที่ชอบในอัลบั้มเป็นของตัวเอง มันยอดเยี่ยมเสมอเมื่อผู้คนเล่าให้เราฟังว่าเพลงบางเพลงรีเลทชีวิตของพวกเขาอย่างไร

 
(Photo Credit: Ingrid Pop)

 
RockOn: คุณคิดเห็นอย่างไรบ้างกับความนิยมที่กลับมาของแนวดนตรีชูเกซและดรีมป็อปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง TikTok แล้วเทรนด์นี้มีความหมายต่อพวกคุณอย่างไรบ้าง ในฐานะเป็นวงที่ทำให้แนวดนตรีเหล่านี้เป็นที่นิยมตั้งแต่แรก?

Christian: มันค่อนข้างเป็นปริศนาสำหรับเรานะครับ แต่ผมกลับชอบมันมากๆ เพราะมันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ได้ถูกบังคับโดยบริษัทผลิตเพลงหรือแคมเปญโฆษณา ตอนที่เราทำวงเสร็จเมื่อช่วงต้นปี 1995 เราไม่สามารถจ่ายเงินให้ผู้คนมาดูโชว์เราได้ และไม่มีทางที่เราจะจินตนาการได้เลยว่าเกือบ 30 ปีต่อมา เราจะได้เล่นโชว์ให้กับผู้คนหลายพันคนที่ตอนนั้นยังไม่เกิดด้วยซ้ำ

RockOn: ในความคิดของคุณ Slowdive มีวิวัฒนาการอย่างไรบ้างในฐานะวงดนตรี นับตั้งแต่ปล่อยเดบิวต์อัลบั้ม ‘Just for a Day’?

Christian: นอกเหนือจากการเติบโตจากวัยรุ่นมาสู่วัยกลางคนแล้ว… ผมคิดว่าเรายังคงความอ่อนไหวละเอียดอ่อนเหมือนเดิมครับ เรายังต้องการทำอัลบั้มที่เราอยากทำ เราไม่ได้ใช้เวลากับใครบางคนมากเกินไปอีกแล้ว มันดูเป็นเรื่องน่าขบขันนะที่แม้เวลาจะผ่านไป เราทุกคนก็ยังค่อนข้างจะเหมือนกันทุกประการ เรายังคงบันทึกเสียงในสตูดิโอเดียวกัน และพวกเราก็ยังนั่งโซฟาตัวเดียวกันในห้องควบคุมด้วย… โซฟาซึ่งตรงกลางจะแอบย้วยนิดหน่อย แล้วก็ดูเละเทะเหมือนเราเลย

 
(Photo Credit: Ingrid Pop)

 
RockOn: เมื่อปีก่อนเป็นวาระครบรอบ 30 ปี อัลบั้มชุดที่สองสุดคลาสสิกของ Slowdive อย่าง ‘Souvlaki’ อยากทราบว่าวาระดังกล่าวสะท้อนอะไรคุณจากช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาบ้าง?

Christian: ผมคิดว่าการได้เห็นเด็กๆ มาดูโชว์ของเรา เป็นสิ่งที่สะท้อนเราในทุกๆ เรื่องเลยครับ มันแปลกจริงๆ เมื่อคิดว่า ‘Souvlaki’ มีอายุ 30 ปีแล้ว ผมยังจำมันได้ขึ้นใจเลยตอนที่เราทำมัน เหมือนเพิ่งผ่านมาได้แค่ประมาณ 10 ปีเอง กระจกเป็นสิ่งเตือนใจที่ดีเสมอว่ามันเกิดขึ้นนานกว่านั้นมาก

RockOn: สุดท้ายนี้ แฟนๆ สามารถคาดหวังอะไรได้บ้างจากโชว์เดี่ยวครั้งแรกในไทยของคุณที่จะกำลังเกิดขึ้นในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ที่ Voice Space?

Christian: เราจะเล่นเพลงจากทุกอัลบั้มของเรา และหวังว่ามันจะดังกึกก้องทั้งจากเราและผู้ชมครับ เราตั้งตารอคอยที่จะกลับไปอีกครั้ง เพราะคราวก่อนเรามีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย HAVE YOU HEARD? (@haveyouheard_live)

 
ใครที่มีบัตรอยู่ในมือแล้ว เตรียมไปล่องลอยด้วยกันกับงาน #HYHBKK Live with Slowdive พร้อมด้วยวงเปิดสัญชาติไทยจากนครสวรรค์อย่าง Telever ในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคมนี้ ที่ Voice Space แล้วเจอกัน!

ขอขอบคุณ: HAVE YOU HEARD?